[เรื่องสั้น] รักแท้ควรมีแค่สองคน

ความรักที่ไม่ถูกที่ ผิดจังหวะเวลา ซ้ำยังหาปลายทางไม่เจอ ฉันไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง นับตั้งแต่จำความได้ ฉันมีแฟนมาหลายคน แต่ไม่เคยทำผิดทำนองคลองธรรมแต่อย่างใด เมื่อคบกันแล้วไปด้วยกันไม่ได้ ก็จบกัน แต่ละคนยังสามารถเป็นเพื่อนกันได้ด้วย จนกระทั่งฉันได้ใกล้ชิดกับเขา…พี่ซัน ผู้ชายที่ชื่อสว่างไสวเหมือนดวงอาทิตย์อันเจิดจ้า อันที่จริงเรารู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย โดยเราทั้งคู่อยู่ชมรมเดียวกัน แต่ตอนนั้นฉันไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับเขาสักนิดเดียว

กระทั่งฉันเข้ามาทำงานในบริษัทหนึ่ง ก็มีโอกาสเจอพี่ซันอีกครั้ง เขาทำงานเป็นเซลล์ ส่วนฉันอยู่ฝ่ายครีเอทีฟ เนื่องด้วยเนื้องานทำให้เรามีโอกาสสนิทกันมากขึ้น พี่ซันเป็นคนทำงานเก่ง คล่องแคล่ว ฉันจึงชอบที่จะเรียนรู้งานจากเขา ช่วงแรกก็เป็นแค่ความประทับใจในความฉลาดของเขา เพราะรู้ว่าพี่ซันแต่งงานแล้ว แถมยังมีลูกน้อยวัยสี่ขวบอีกด้วย สายตาที่ฉันมองเขาจึงเป็นความชื่นชมในฐานะพี่ชายเท่านั้น

สถานการณ์เปลี่ยนไปตอนไหนน่ะหรือ? คงเริ่มจากตอนที่เราสนิทกันมากขึ้นจนเขาขับรถมาส่งฉันที่บ้านหลังเลิกงาน ซึ่งในตอนแรกฉันก็ย้ำกับพี่ซันว่าให้บอกภรรยาไว้ก่อน เพื่อความเหมาะสม ระหว่างอยู่บนรถเรามักคุยกันแลกเปลี่ยนทัศนคติ และพบว่าเราเข้ากันได้เป็นอย่างดี ถึงขั้นชวนกันไปดูหนังที่ห้างแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ประเด็นต่อมาที่ทำให้ความสัมพันธ์เราพัฒนาไปแบบผิดทางอย่างรวดเร็วคือ เขาชวนฉันไปเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงปีใหม่ ซึ่งภรรยาและลูกของเขาไปเที่ยวอีกที่หนึ่งก่อนวันหยุดของบริษัทแล้ว และฉันก็ดันตอบตกลงซะด้วย จำได้ว่ามันเป็นการเคาท์ดาวน์ปีใหม่ที่มีความสุขที่สุด มีแค่เราสองคนเท่านั้น….

หลังกลับมาจากเที่ยวปีใหม่ ฉันเครียดกับเรื่องของพี่ซันจนต้องแอดมิดเข้าโรงพยาบาล และคนแรกที่มาเยี่ยมฉันโดยการขับรถมาจากต่างจังหวัด (ไปพบลูกค้า) ก็คือพี่ซัน กระทั่งวันที่ฉันออกจากโรงพยาบาลเราจึงได้เปิดใจคุยกัน พี่ซันสารภาพว่าเขาตกหลุมรักฉัน เขาไม่ได้มองฉันเป็นแค่น้องหรือเพื่อนร่วมงาน ฉันเองก็เช่นกัน แต่ในเมื่อพี่ซันมีครอบครัวแล้ว เราจะทำยังไงล่ะ? พี่ซันบอกกับฉันว่าเขารักลูก แต่ไม่ได้รักภรรยา การแต่งงานกันเกิดขึ้นเพราะผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันจึงยอมทำผิดทำนองคลองธรรมในเรื่องความรักเป็นครั้งแรก เราสองคนตัดสินใจคบหากัน ในฐานะคนรัก คอยเทคแคร์ดูแลกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน พี่ซันย้ำว่าจะไม่มีวันปล่อยมือจากฉันไป เพราะเขารักฉันมาก

เราสองคนก็เหมือนคนรักทั่วไป ไปมาหาสู่กัน แต่ไม่มีอะไรเกินเลยกัน จนกระทั่งช่วงสถานการณ์โรคโควิดที่ทำให้ฉันต้องทำงานที่บ้าน พี่ซันก็จะคอยซื้อข้าวมาทานด้วย มานั่งทำงานที่ห้อง เป็นเช่นนี้เรื่อยมา จนวันหนึ่งพี่ซันโทรมาหาฉันด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดแล้วบอกว่า ภรรยาเขารู้เรื่องของเราสองคน ฉันตกใจมาก และที่แย่ไปกว่านั้นคือภรรยาของพี่ซันไลน์มาหาฉัน พร้อมถ้อยคำตำหนิมากมาย ไม่มีคำหยาบ แต่เจ็บไปถึงทรวง ฉันจึงปรึกษากับพี่ซันว่าเราสองคนควรกลับไปเป็นพี่น้องกันดีหรือไม่ แต่พี่ซันปฏิเสธ เขายืนยันว่ารักฉัน และจะไม่ยอมเลิกกับฉัน ส่วนเรื่องภรรยา เขาจะจัดการเอง

สถานการณ์กลายเป็นว่าเราสองคนต้องคบหากันแบบหลบๆ ซ่อนๆ ฉันมีความสุขไหม แน่นอนว่ามี แต่ก็ทุกข์มหันต์เช่นกัน ช่วงกลางปีเหตุการณ์แห่งความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเราสองคนมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน และเขาเป็นผู้ชายคนแรกของฉัน มันยิ่งให้ความรู้สึกที่พิเศษ เหมือนเชือกที่รัดแน่นขึ้น เรามีเพศสัมพันธ์กันบ่อยครั้งที่บ้านของฉัน แต่ก็น่าเศร้าเพราะหลังจากนั้นเขาต้องรีบกลับบ้านไปหาภรรยาและลูก ไม่มีแม้โอกาสจะนอนกอดฉันแล้วคุยกันเหมือนคู่รักคู่อื่น

เรื่องนี้ทำให้ฉันป่วยเป็นโรคซึมเศร้าต้องเข้ารับการบำบัด รับยา และพบแพทย์ตามนัด เมื่อพี่ซันรู้เขาก็รู้สึกผิดและเริ่มตีตัวออกห่าง ความสัมพันธ์ที่เคยทำให้ยิ้มได้กลายเป็นทำร้ายซึ่งกันและกัน พวกเราจึงตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เรื่องราวเลวร้ายถึงขีดสุดเมื่อภรรยาของพี่ซันมาพบฉันที่ทำงานและถามฉันตรงๆ เรื่องความสัมพันธ์ที่เกินเลยระหว่างฉันและพี่ซัน เธอไม่ได้เกรี้ยวกราดหรือด่ารุนแรงเหมือนในละคร แต่ถามว่าจะตัดสินใจยังไงต่อ และขอให้ฉันเลือกที่จะหยุดเพื่อเห็นแก่ลูกของพี่ซัน

ประโยคที่บอกว่า “พี่จะไม่มีวันปล่อยมือจากหนู” เป็นแค่คำพูดสวยหรูของผู้ชายคนหนึ่งที่สุดท้ายเลือกที่จะจบความสัมพันธ์กับฉัน เพราะรู้ว่าภรรยารู้เรื่องนี้อย่างชัดเจนแล้ว เขาไม่ต้องการเลิกกับภรรยา สิ่งที่ฉันได้รับคือคำว่า “ขอโทษ” ฉันไม่ใช่คนที่ถูกเลือก

หลังจากนั้นพี่ซันก็บล็อกทุกช่องทางการติดต่อของเราสองคน แต่ฉันยังมีช่องทางที่แอบเข้าไปดู Facebook ของเขาได้ สิ่งที่ฉันพบคือครอบครัวหนึ่งที่เต็มไปด้วยความรัก ความสุข เด็กน้อยวัยสี่ขวบที่ยิ้มอย่างสดใส เมื่อถูกโอบกอดด้วยความรักจากพ่อแม่ ส่วนฉันต้องลาออก ย้ายที่ทำงาน กลับมาหาพ่อแม่และร้องไห้อยู่เป็นเดือน

หลายครั้งที่ฉันเห็นข้อความที่พี่ซันบอกรักภรรยาใน Facebook บทเพลงที่เขาเคยร้องให้ฉันฟังสมัยที่คบกัน ก็กลับเป็นว่าวันนี้เขาร้องให้ภรรยาฟัง ฉันได้แต่เฝ้าถามตัวเองว่าที่ผ่านมา พี่ซันเคยรักฉันหรือไม่ แต่สำหรับฉันยืนยันได้ว่ารักพี่ซันจริงๆ ฉันรู้ว่าคนที่อ่านคงมองว่าตรรกะเมียน้อยก็เป็นแบบนี้ แต่ใครล่ะจะอยากให้เรื่องเกิดขึ้น ฉันอยากถูกเลือก อยากให้พี่ซันที่เอ่ยปากว่ารักฉัน ทำทุกอย่างอย่างถูกต้อง ฉันพร้อมที่จะรอเสมอ แต่มันไม่มีวันเป็นจริง….


— จบบริบูรณ์ —

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x