นับตั้งแต่เลิกกับแฟนเก่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ฉันก็จมดิ่งอยู่กับความเจ็บปวด อาการใจสลายหลังจากถูกบอกเลิกเป็นอย่างไร ได้เข้าใจก็ตอนนี้ ไม่เพียงใจพัง แต่ยังกระทบกับงานอีกด้วย เพราะอารมณ์ที่แปรปรวนทำให้ฉันทำงานผิดพลาดและได้รับการประเมินงานที่ไม่น่าประทับใจ ส่งผลให้ฉันถูกลดตำแหน่งจากซีเนียร์เหลือเพียงพนักงานทั่วไป เรียกว่าเป็นช่วงมืดมนของชีวิตเลยก็ว่าได้
ช่วงนั้นเองเพื่อนที่ทำงานแผนกเดียวกันก็แนะนำว่าให้ฉันลองผ่อนคลายด้วยการหาเพื่อนคุยผ่านแอปพลิเคชั่นชื่อดัง วินาทีแรกฉันปฏิเสธ เพราะในมุมมองของฉัน แอปฯ เหล่านี้หาคนจริงใจยาก แต่เมื่อถูกรบเร้ามากเข้า ฉันก็ลองสมัครเข้าไปเล่น โดยระบุว่าหาเพื่อนคุยเท่านั้น ไม่ต้องการหาแฟน ผลปรากฎว่ามีคนทักเข้ามาคุยกับฉัน 2-3 คน แต่คุยกันไม่เท่าไหร่ก็ออกลาย คุยเรื่องอย่างว่าซะแล้ว ทำเอาฉันเบื่อหน่ายจนเกือบจะลบแอปฯ ทิ้ง แต่แล้วฉันก็ได้รู้จักกับเขา ผู้ชายที่ชื่อว่า “เบนซ์”
เบนซ์อายุน้อยกว่าฉันหนึ่งปี เราทำงานอยู่ย่านอโศกเหมือนกัน แต่ไม่เคยได้เจอกัน เราคุยกันเรื่องทั่วไป เรื่องงาน เรื่องชีวิตส่วนตัวที่ไม่ลึก และแน่นอนว่าไม่มีการคุยเรื่องความรัก นั่นทำให้ฉันค่อนข้างพอใจ เพราะรู้สึกเหมือนได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ เมื่อคุยกันถูกคอ จากคุยกันผ่านแอปฯ ก็เริ่มแลกไลน์กัน จนในที่สุดเราสองคนก็นัดเจอกันที่คาเฟ่แห่งหนึ่ง
การพบกันครั้งแรกเป็นไปด้วยดี เนื่องจากเบนซ์และฉันชอบดนตรีเหมือนกัน ฉันเคยเป็นนักดนตรีไทยสมัยมัธยม ส่วนเบนซ์ก็เล่นเปียโน เขาเปิดคลิปการเล่นเปียโนของเขาให้ฉันดู แลกเปลี่ยนความรู้ทางดนตรีกัน จากนั้นก็พากันไปเดินห้าง ต่างฝ่ายต่างทำตัวปกติ ฉันไม่ได้คิดว่าตัวเองต้องสวย ต้องดูดี หรือรักษาภาพลักษณ์ตลอดเวลา ในขณะที่เขาก็ทำตัวตามปกติ ก่อนที่เขาจะขึ้นบีทีเอสไปส่งฉันที่สถานีปากซอยบ้าน แล้วนั่งบีทีเอสย้อนกลับไปอีกปลายทางหนึ่ง นั่นเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับเราสองคน
หลังจากวันนั้นเราก็คุยกันผ่านไลน์ และเบนซ์เริ่มออกตัวว่าสนใจฉัน ฉันจึงตัดสินใจบอกเขาตรงๆ ว่าฉันเพิ่งเลิกกับแฟนมา และยังลืมแฟนเก่าไม่ได้ ไม่พร้อมเริ่มต้นกับใคร เบนซ์ก็บอกว่าจะรอ ในทุกวันเบนซ์จะไลน์มาชวนคุยสัพเพเหระ ทำนองว่าอยากสานสัมพันธ์กับฉัน แต่ฉันเพียงตอบไปสั้นๆ ว่าติดซีรีส์ ไม่อยากคุยด้วย พูดง่ายๆ คือปฏิเสธทุกช่องทาง คุยแค่เพื่อน ทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็แยกย้ายกันไป ไม่น่าเชื่อว่าครึ่งปีผ่านไป เบนซ์ก็ยังทำเหมือนเดิมทุกวัน จนฉันเริ่มใจอ่อนและยอมไปทานอะไรด้วยกันกับเขาอีกครั้ง แต่ก็ยังยืนยันสถานะว่ายังเป็นเพื่อน ไม่มีอะไรเกินเลย
จุดเปลี่ยนคงอยู่ที่ความสม่ำเสมอและการแสดงความจริงใจของเขา เมื่อวันหนึ่งเรานั่งคุยกันในคาเฟ่ในห้างแถวบ้านของฉัน เขาเปิดใจคุยแทบทุกเรื่อง ความรู้สึกที่มีต่อฉัน ความรู้สึกอยากดูแล ปกป้อง และอยากใช้ชีวิตคู่ด้วย ฉันเองก็เปิดใจเช่นกันว่า เคยมีคนพูดแบบเดียวกับเขา (แฟนเก่า) ซึ่งตอนนี้ทิ้งฉันไปมีแฟนใหม่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าคิดจะจีบฉันจริงๆ ฉันก็จะเปิดโอกาสให้ แต่ฉันขอพิสูจน์คำพูดด้วยการกระทำ เขาอาจต้องรอเป็นปี 3 ปี 5 ปี หรือมากกว่านั้น เพราะฉันไม่ใช่คนประเภทที่ขาดผู้ชายไม่ได้ และเขาก็ตอบตกลงด้วยท่าทางมั่นใจ
เวลาผ่านไปเกือบปีแล้ว เบนซ์กับฉันยังคงไปมาหาสู่กัน เขามักทำให้ฉันยิ้มได้ด้วยคำพูดง่ายๆ ไม่หวือหวา ถ้าเปรียบตัวฉันที่ใจร้อนเหมือนไฟ เบนซ์ก็คือสายน้ำที่ไหลเอื่อยๆ แต่ทำให้สดชื่นขึ้นได้ อีกสิ่งหนึ่งที่ฉันประทับใจเบนซ์คือ แม้ฉันจะเปิดโอกาสให้เขา แต่เบนซ์ให้เกียรติฉันเสมอ ไม่แตะเนื้อต้องตัวถ้าไม่จำเป็น ไม่มีเกินเลย สุดท้ายเป็นอย่างไรน่ะหรือ? ฉันก็ยอมใจอ่อนคบกับเขาจนได้ และล่าสุดวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เราก็พากันไปออกเดตที่โลกใต้น้ำที่ห้างใหญ่ใจกลางเมือง ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ดีและน่าประทับใจมาก
ฉันไม่รู้ว่าอนาคต ระหว่างเราจะเป็นอย่างไร แต่ฉันพูดได้ว่าตอนนี้มีความสุขดี และคงต้องขอบคุณแอปพลิเคชั่นดังกล่าวที่ทำให้ฉันได้พบรักอีกครั้ง
— จบบริบูรณ์ —