ไม่น่าเชื่อว่าการแอบรักใครสักคน จะทำให้เราไม่เป็นตัวของตัวเองเอาเสียเลย วันๆ จะนึกถึงแต่เรื่องของเขา เพียงแค่นึกถึงใบหน้า ก็ทำให้รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจ แต่เพียงแค่เสี้ยววินาทีต่อมาที่นึกถึงว่าเขาอาจจะมีคนข้างกายก็เกิดหงุดหงิดขึ้นมาเสียอย่างนั้น ความรู้สึกเหล่านี้ ฉันเข้าใจมันดี เพราะฉันก็เป็นคนหนึ่งที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาของการ “แอบรัก”
ใครหลายคนที่กำลังอยู่ในช่วงของการแอบรัก จะรู้ดีว่า การแอบรัก มักมาคู่กับการแอบเจ็บ ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่ทรมานหัวใจอย่างมาก แต่เราก็ยังเลือกที่จะเก็บเอาไว้ฝ่ายเดียว เพราะการพูดไปอาจทำให้เจ็บปวดหัวใจมากกว่า ฉันเองก็คิดแบบนั้น จึงได้แต่แอบรัก แอบเจ็บไปคนเดียวอย่างนี้ ฉันเป็นคนธรรมดาทั่วไป ทำงานอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่ง คนที่ฉันแอบรักก็คือหัวหน้าแผนกของฉันเอง เขาเป็นหนุ่มหล่อ ไฟแรง และเป็นกันเองกับลูกน้องอย่างมาก นั่นคงเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ฉันตกหลุมรักเขาตั้งแต่ตอนที่เข้ามาทำงานที่นี่ใหม่ๆ
เย็นวันหนึ่งก่อนเลิกงาน อยู่ๆ หัวหน้าแผนกก็บอกว่าเย็นนี้จะพาไปเลี้ยงสังสรรค์กันในแผนก ฉันดีใจมากที่จะได้ไปเที่ยวกับเขาบ้าง ได้อยู่ใกล้มากขึ้นนอกเวลางาน แม้ว่าจะไปกันเป็นสิบคนก็ตาม เมื่อมาถึงร้านอาหาร ทุกคนสังสรรค์กันอย่างสนุกสนานเต็มที่ ฉันสังเกตเห็นว่าเหมือนเขาไม่สบายใจ จึงเข้าไปถามไถ่ อาจเป็นเพราะเขาเมามากจึงเล่าออกมาว่าทะเลาะกับแฟนจนถึงขั้นเลิกกัน เขาเสียใจมาก ฉันได้แต่ปลอบใจเขา เขาจึงพูดประโยคที่ทำให้ฉันหัวใจพองโตออกมาว่า “ถ้าแฟนของผมเข้าใจผมเหมือนที่คุณเข้าใจก็คงดี” ฉันรู้สึกมีความสุขและมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเขาเลิกกับแฟนแล้วฉันก็ตั้งใจว่าคงถึงเวลาที่ฉันจะต้องบอกความในใจออกไปเสียที เมื่อคิดดังนั้น ฉันจึงตั้งใจว่า ก่อนวันหยุดยาวในอีกอาทิตย์ถัดมาที่มีงานเลี้ยงส่งเพื่อนในแผนก ฉันจะบอกความในใจกับเขา
ตลอดเวลา 1 อาทิตย์นั้น เขามักจะเดินมาพูดคุยกับฉันมากขึ้น และฉันเองก็ไม่เคยเห็นแฟนเขามาอีกเลย ฉันแทบจะอดใจรอให้ถึงวันเลี้ยงส่งเพื่อนในแผนกไม่ไหว จนเมื่อวันนั้นมาถึง ในขณะที่ทุกคนกำลังสังสรรค์กันอย่างสนุกสนานเช่นเคย ฉันก็ตัดสินใจเดินไปหาเขาเพื่อที่จะบอกความในใจ เมื่อเขาเห็นฉันนั่งลงใกล้ๆ ก็เป็นฝ่ายชวนคุย สีหน้าของเขาดูไม่เหมือนคนที่เพิ่งเลิกกับแฟนเลย หรือว่า…และแล้วสิ่งที่ฉันกลัวก็เป็นจริง เขาเรียกทุกคนในแผนกมารวมตัวพร้อมบอกข่าวดีว่า กำลังจะแจกการ์ดแต่งงานแล้ว
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ฉันนิ่งอึ้ง ตัวชา เหมือนภาพรอบตัวกลายเป็นสีเทาไปหมด ได้แต่กลืนคำพูดที่เตรียมมาลงคอไปพร้อมกับน้ำตาที่อยากจะรินไหลออกมา และพูดออกไปได้เพียงว่ายินดีด้วยเท่านั้น ทุกวันนี้ฉันก็ยังคงทำงานอยู่กับเขา แต่กลับไม่มีความรู้สึกว่าอยากจะเห็นหน้าเขาอีก อาจเพราะว่าฉันรู้สึกเจ็บปวดมาก และรู้ว่าไม่มีหวังอีกแล้วก็เป็นได้ และไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหน ที่จะออกจากห้วงความรู้สึกนี้ไปได้
— จบบริบูรณ์ —